ทริปนี้เราได้มีโอกาศไปทำบุญ ไหว้พระ 9 วัดกันที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า วันที่เราไปเป็นวันพระใหญ่ ตรงกับวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา คนเลยเยอะมากๆ
เราตั้งใจไปไหว้พระ 9 วัดกัน การไปกับทัวร์จึงตอบโจทย์มากที่สุด ขึ้นเครื่องกันตั้งแต่เช้ามืด ใช้เวลาเดินทางไม่นาน พอถึงพม่า ก็มีพี่ไกด์พม่ามาสมทบอีกคน คอยแนะนำสถานที่และวิธีไหว้ต่างๆให้เรา ตอนไปเราไม่ได้แลกเงินไปนะ แลกกับไกด์สะดวกกว่า พี่ไกด์จะมีซองเงินให้เราแลกทีละ1000 บาท ใช้ไม่หมดก็แลกคืนได้ แต่ต้องเป็นเงินที่เราแลกกับพี่ไกด์เท่านั้น แลกเองไม่รับคืนนะ
ไปถึงก็เข้าวัดแรกกันเลย พี่ไกด์จะเป็นเตรียมดอกไม้ธูปเทียนไว้ให้เรา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ละวัดไม่เท่ากัน แนะนำว่าให้เตรียมเงินทำบุญเพิ่มมาด้วย
วัดแรก : วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี (Swel Taw MyatZedi Taw) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของย่างกุ้ง ไปถึงฝนก็ตก เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่
วัดที่สอง : พระเจดีย์กาบาเอ (KaBa Aye Pagoda) เจดีย์ทรงกลมภายในบรรจุพระบรมธาตุ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร
ไปต่อกันที่ มหาปาสณคูหา เป็นห้องโถงใหญ่ มีเสาต้นใหญ่ ภายในจุคนได้เยอะมาก
วัดพระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Kyauk Htat Gyi Reclining Buddha) เป็นพระนอนองค์ใหญ่ที่มีดวงตาสวยที่สุดของพม่า ดวงตาเป็นแก้ว มีเปลือกตาสีฟ้า
ได้เวลามื้อกลางวัน เราแวะพักทานข้าวกันที่ร้าน Phai Lin ร้านอาหารไทย ในพม่า อาหารอร่อย สะอาด รสชาติเหมือนกินที่ไทย ถูกปากที่สุดในทริปแล้ว
ไปต่อกันที่ วัดงาทัตจี (Nha Haat Gyi Pagoda) วัดเก่าแก่อีกแห่งของพม่า มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องแบบกษัตริย์
ไหว้พระเสร็จไว ระหว่างรอคนในกรุ๊ปเราเลยเดินออกมาร้านกาแฟตรงข้ามวัด ภายในร้านตกแต่งด้วยตุ๊กตากระบอก แปลกตาดี
เวลาเหลือ เราเลยได้เข้าที่พักไปเปลี่ยนชุดในโรงแรม แล้วกินขนม กินกาแฟของโรงแรมก่อนไปที่อื่นต่อ ขนมเค้กหน้าตาดูหน้ากินมาก แต่รสชาติไม่เหมือนบ้านเราเท่าไหร่
ไปต่อกันที่มหาวิชยเจดีย์ (Maha Wizaya Pagoda) ภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่อลังการ เพดานเป็นท้องฟ้า ผนังรอบๆเป็นรูปต้นโพธิ์ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเจดีย์ชเวดากอง
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระมหาเจดีย์คู่เมืองพม่า เป็นวัดใหญ่ และสวยมาก นั่งกันอยู่ในรถ ฝนตกตั้งแต่ยังไม่เข้าวัด ตกหนักมากที่สุดแล้ว แต่ก็ลุยฝนกันเข้าไป ไหว้พระกันทั้งที่ฝนตก จนดึกฝนก็ยังไม่หยุด พี่ไกด์บอกว่าหนุ่มสาวพม่าจะชอบชวนกันเข้าวัด ยิ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนา คนเลยยิ่งแน่นวัดเข้าไปใหญ่เลย
ได้ชมความงามของ พระมหาเจดีย์ชเวดากองกันจนมืด พี่ไกด์ให้เวลาเดินเยอะมาก
ก่อนกลับที่พัก ก็ไปทานอาหารเย็นกันต่อ เป็นร้านอาหารไทยเหมือนเคย แต่ร้านนี้จะออกมันๆไปทางอาหารจีน จริงๆอาหารมีเยอะกว่านี้ แต่เกรงใจคนข้างๆเลยถ่ายมาน้อย
ตื่นเช้ามาทานอาหารของโรงแรม อาหารเช้าจะเป็นบุฟเฟต์ มีของให้เลือกเยอะมาก หน้าตาจะเหมือนอาหารโรงแรมที่ไทย แต่เท่าที่สังเกต อาหารจะออกมันๆเป็นส่วนใหญ่
ไปไหว้พระกันต่อที่เจดีย์โบตะทาวน์ (Botathaung Pagoda) ไหว้สักการะเทพทันใจ และขอพรเทพกระซิบ ซึ่งเป็นธิดาของพญานาค ระหว่างอยู่บนรถ พี่ไกด์ก็จะสอนวิธีพับแบงค์ ให้เราเตรียมแบงค์ 1 ใบที่จะทำพิธีและเก็บไว้ไปด้วย
วัดบารมี พระเกศามีชีวิต (Parami Monastery) ถ้าสังเกตในคลิปจะเห็นว่ากระเกศาขยับได้ วัดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะฝนตกหนักมาก เราวิ่งลุยฝนจากรถเข้าไปในวัด ลืมถ่ายรูปไปได้เลย
ได้เวลาอาหารกลางวันอีกแล้ว มื้อนี้กินหรูดูดี มีเป็ดปักกิ่ง และสลัดกุ้งมังกร อาหารอร่อย ห้องน้ำสะอาด พนักงานบริการดี
แวะช็อปกันต่อที่ตลาดสก็อตมาร์เก็ต (Bogyoke Aung San Market) ใครอยากได้หยกพม่า แนะนำให้มาซื้อที่นี่เลย หยกสวยมากๆ นอกจากนั้นยังมีผ้าซิ่น หรือของฝากจากพม่าด้วย ถ้าใครไม่ชอบเดินตลาด ตรงข้ามก็มีห้าง อารมณ์เหมือนสยามบ้านเรา ราคาก็พอๆกับที่ไทยด้วย
ไปชมช้างเผือกหายาก กันที่ปางช้าง (White Elephant) และให้อาหารช้างเผือก มีอาหารให้เลือกหลายชุดหลายราคา คนมาเที่ยวที่นี่ค่อนข้างน้อย ใครมาทำบุญแล้ว เราแนะนำให้เลี้ยงน้องช้างกันด้วยนะ
จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่วัดพระหินอ่อน (Kyauk Taw Gyi Pagoda) มีพระสร้างจากหินอ่อน แกะสลักขนาดใหญ่ สวยงามมาก
ไหว้พระเรียบร้อยก่อนกลับ มีน้องๆมาส่ง พร้อมเรียกเราและทุกคนว่าญ่าญ่า ชวนชั่งน้ำหนักแปลกตาดีมาก ตอนนี้เป็นญ่าญ่ากันทั้งรถแล้ว
กินดีมาทุกมื้อ ก่อนกลับใช้เงินจนเกือบหมดเหลือเงินกลับนิดเดียว ไม่รู้ว่าที่สนามบินไม่รับเงินไทย เลยได้กินผัดกระเพราแบบ 1 แถม 1 แทน
ปล. วัดในพม่าค่อนข้างเคร่งมาก จะไม่อนุญาตให้สวมรองเท้า หรือถุงน่องเข้าไปในวัด ใครอยากดูคลิปบรรยากาศเพิ่มเติม กดดูได้ใน Youtube เลยนะคะ คลิปอาจจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ ฝนตกหนักมาก ภาพและวิดีโอส่วนใหญ่เลยมาจากมือถือ เน้นให้ชมบรรยากาศกันค่ะ
